สาลา (บาลีวันละคำ 453)
สาลา
ในภาษาไทยใช้ตามรูปสันสกฤตเป็น “ศาลา”
“สาลา” แปลตามศัพท์ว่า “โรงเรือนเป็นที่ผู้คนไปหา” (สลติ คจฺฉติ เอตฺถาติ สาลา = บุคคลย่อมไปในที่นั้น เหตุนั้น ที่นั้นจึงเรียกว่า สาลา)
“ศาลา-สาลา” หมายถึง ห้องโถง, ห้องใหญ่, บ้าน; เพิง, โรงสัตว์
ความหมายในภาษาไทย พจน.42 บอกว่า –
“ศาลา : อาคารทรงไทย ปล่อยโถง ไม่กั้นฝา ใช้เป็นที่พักหรือเพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาวัด ศาลาที่พัก ศาลาท่านํ้า, โดยปริยายหมายถึงอาคารหรือสถานที่บางแห่ง ใช้เพื่อประโยชน์การงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศาลาพักร้อน ศาลาสวดศพ”
ภาษาไทยคำเก่าๆ ใช้คำว่า “ศาลา” ในความหมายว่า –
1 สถานที่ปฏิบัติราชการ เช่น ศาลาว่าการกระทรวง.. ศาลากลางจังหวัด.. สุขศาลา (ปัจจุบันเรียกว่า สถานีอนามัย)
2 สถานที่ปฏิบัติกิจบางอย่าง (เฉพาะคราวหรือประจำ) เช่น ศาลาการเปรียญ (ศาลาวัดสำหรับพระสงฆ์แสดงธรรมและใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศลต่างๆ ด้วย)
“ศาลา” ในภาษาไทยใช้เรียกสถานที่ทุกระดับ ตั้งแต่สถานที่เฉพาะพระราชามหากษัตริย์ ไปจนถึงสถานที่สำหรับคนอนาถา มีทั้งที่ต้องอธิบายจึงจะรู้ว่าเป็นสถานที่อะไร และที่เอ่ยขึ้นมาก็รู้กันดีโดยไม่ต้องอธิบาย เช่น
– “ศาลาลงสรง” = ศาลาที่สร้างขึ้นชั่วคราวสำหรับใช้ในพระราชพิธีโสกันต์หรือพระราชพิธีเกศากันต์และพระราชพิธีลงท่า
– “อาโรคยศาลา” หรือ “อาโรคยศาล”= โรงพยาบาล
– “ศาลาลูกขุน” = ที่ทำการของลูกขุน
– “ศาลาราย” = ศาลาที่สร้างเป็นหลัง ๆ เรียงเป็นแนวรอบโบสถ์หรือวิหาร เช่น ศาลารายวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
– “ศาลาฉทาน” = สถานที่แจกจ่ายอาหารแก่คนทั่วไปเป็นการกุศล
– “ศาลาพักร้อน”
– “ศาลาริมทาง”
– “ศาลาวัด”
: แม้เป็นเพียงศาลา
อย่าดูถูกว่าต้อยต่ำ
ถามตัวเองสักคำ
ทำประโยชน์เหมือนศาลาได้บ้างหรือยัง