Month: มิถุนายน 2014

บาลีวันละคำ

นเรศวร (บาลีวันละคำ 763)

นเรศวร
อ่านว่า นะ-เร-สวน
ประกอบด้วย นร + อีศฺวร
บาลีเป็น นร + อิสฺสร
“นร” (นะ-ระ) แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “ผู้นำไป”
(2) “ผู้นำไปสู่ความเป็นใหญ่”
(3) “ผู้ดำเนินไปสู่ภพน้อยภพใหญ่”
(4) “ผู้อันกรรมของตนนำไป”
(5) “ผู้ถูกนำไปตามกรรมของตน”
ความหมายที่เข้าใจกันคือ “คน” (ปกติไม่จำกัดว่าหญิงหรือชาย)
“อิสฺสร” (อิด-สะ-ระ) แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “ผู้เป็น” คือผู้ไปเป็น ไปเกิดในภูมิที่น่าปรารถนา
(2) “ผู้เป็นใหญ่”
(3) “ผู้ครอบงำ” หมายถึงผู้ปกครอง
ความหมายที่เข้าใจกันคือ ผู้เป็นเจ้า, ผู้ปกครอง, ผู้เป็นนาย, ผู้เป็นใหญ่, หัวหน้า
“อิสฺสร” เทียบสันสกฤตเป็น “อีศฺวร” สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า
“อีศฺวร : (คำนาม) พระอีศวรเป็นเจ้า, พระเจ้า; ศัพท์นี้ใช้หมายความถึงเทพดาต่างๆ ทั่วไป”
นร + อิสฺสร ตามรูปบาลีเป็น “นริสฺสร” อ่านว่า นะ-ริด-สะ-ระ

Read More
บาลีวันละคำ

ทัพพี (บาลีวันละคำ 762)

ทัพพี
อ่านว่า ทับ-พี
ศัพท์บาลีมีทั้งที่เป็น “ทพฺพิ” (ทับ-พิ) และ “ทพฺพี” (ทับ-พี)
(ต่างกันที่คำหนึ่งเป็นสระ อิ คำหนึ่งเป็นสระ อี แต่เป็นคำเดียวกัน)
“ทพฺพิ” (ทพฺพี) รากศัพท์มาจาก –
(1) ทุ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + พ ปัจจัย + อิ (ปัจจัยที่ทำให้เป็นอิตถีลิงค์), ลบสระที่ธาตุ, ซ้อน พ
: ทุ > ท + พ = ทพ + พ = ทพฺพ + อิ = ทพฺพิ แปลตามศัพท์ว่า “วัตถุที่เป็นไป” (คือของธรรมดาที่มีทั่วไป)

Read More
บาลีวันละคำ

มิติ (บาลีวันละคำ 761)

มิติ
อ่านว่า มิ-ติ
บาลีเขียนและอ่านตรงกับที่ใช้ในภาษาไทย
“มิติ” รากศัพท์มาจาก มิ หรือ มา (ธาตุ = ชั่ง, ตวง, วัด, นับ, กะประมาณ) + ติ ปัจจัย
: มิ + ติ = มิติ
: มา > มิ + ติ = มิติ
“มิติ” แปลตามศัพท์ว่า “การวัด” “การนับ” หมายถึง การทำกรรมวิธีเพื่อให้รู้ขนาด ปริมาณ และจำนวนเป็นต้น
พจนานุกรม สอ เสถบุตร บอกว่า มิติ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า dimension
ที่คำว่า dimension มีคำแปลและขยายความดังนี้ –
dimension n.
ขนาด, มิติ ขนาดกว้างยาวและหนา (หรือสูง) ทั้งสามอย่าง เรียกว่า the three dimensions เฉพาะขนาดยาวเรียกว่า first dimension ขนาดกว้าง second dimension ขนาดหนาหรือสูง third dimension นักวิทยาศาสตร์บางคนคาดคะเนว่ายังมีขนาดอีกอย่างหนึ่ง คือ fourth dimension หรือมิติที่สี่ คือ ความไม่สิ้นสุด

Read More
บาลีวันละคำ

นโยบาย (บาลีวันละคำ 760)

นโยบาย
(บาลีไทย)
อ่านว่า นะ-โย-บาย
ประกอบด้วย นย + อุบาย
“นย” บาลีอ่านว่า นะ-ยะ แปลตามศัพท์ว่า (1) “การเป็นไป” (2) “อุบายเป็นเครื่องแนะนำ” (3) “วิธีที่พึงแนะนำ” (4) “วิธีเป็นเหตุให้รู้” หมายถึง หนทาง, วิธีการ, แผน, วิธี (way, method, plan, manner)
ในภาษาไทยใช้ว่า “นัย” พจน.54 บอกความหมายไว้ดังนี้ –
(1) เค้าความที่ส่อให้เข้าใจเอาเอง
(2) ข้อสําคัญ เช่น นัยแห่งเรื่องนี้
(3) ความ, ความหมาย, เช่น หลายนัย
(4) แนว, ทาง, เช่น ตีความได้หลายนัย
(5) แง่ เช่น อีกนัยหนึ่ง
“อุบาย” บาลีเป็น “อุปาย” (อุ-ปา-ยะ) รากศัพท์คือ อุป ( = เข้าไป, ใกล้, มั่น) + อิ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) พฤทธิ์ อิ เป็น เอ, แปลง เอ เป็น อาย + อ ปัจจัย
: อุป + อิ > เอ > อาย + อ = อุปาย
“อุปาย” แปลตามศัพท์ว่า “กลวิธีเป็นเหตุให้ถึงความชนะศัตรู” “วิธีเป็นเหตุให้เข้าถึง” “การเข้าใกล้” หมายถึง หนทาง, วิธี, กลวิธี, เล่ห์กล, เล่ห์เหลี่ยม (way, means, expedient, stratagem)
ภาษาไทยใช้ทับศัพท์ว่า “อุบาย” พจน.54 บอกความหมายว่า “วิธีการอันแยบคาย; เล่ห์กล, เล่ห์เหลี่ยม”
โปรดสังเกตว่า “นย” กับ “อุปาย” มีความหมายไปในแนวเดียวกัน
นย + อุปาย = นยุปาย แผลง อุ เป็น โอ : นยุปาย > นโยปาย ใช้ในภาษาไทยว่า “นโยบาย”

Read More
บาลีวันละคำ

ดูกร (บาลีวันละคำ 759)

ดูกร
คำไทยที่ถูกอ่านเป็นบาลี
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
“ดูกร : คำกล่าวขึ้นต้นข้อความกับผู้ที่จะพูดด้วยให้สนใจฟัง”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 แก้ไขบทนิยามใหม่เป็นดังนี้ –
“ดูกร : คำกล่าวเรียกผู้ที่จะสนทนาด้วย เป็นคำที่ผู้ใหญ่พูดกับผู้น้อย เช่น ดูกรเจ้าชาลีลูกรัก (ม. ร่ายยาว กุมาร)”
คำว่า “ดูกร” พจน.บอกคำอ่านไว้ว่า ดู-กะ-ระ และ ดู-กอน
ทั้ง ดูกะระ และ ดูกอน เป็นคำอ่านที่มีนัยเหมือนคำบาลี
คำบาลีว่า “กร” (กะ-ระ) ที่คุ้นกันในภาษาไทย คือที่แปลว่า “มือ” หรือ “ผู้ทำ” เช่น ทินกร = “ผู้ทำกลางวัน” คือดวงอาทิตย์
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษแปลคำว่า “กร” ว่า “the maker” และ ไขความว่า “the hand” เพราะเป็น “ผู้ทำ” นั่นเองจึงหมายถึง “มือ” เนื่องจากเราใช้มือทำกิจต่างๆ มากที่สุด
“กร” ในบาลียังมีความหมายอื่นๆ อีก เช่น รัศมี, แสงสว่าง, งวงช้าง, อากร, ภาษี, ส่วย, น้ำ
แต่คำว่า “ดูกร” ไม่ได้มีความหมายตามคำบาลีใดๆ ทั้งสิ้น

Read More
บาลีวันละคำ

โบราณ (บาลีวันละคำ 758)

โบราณ
อ่านว่า โบ-ราน
บาลีเป็น “โปราณ” อ่านว่า โป-รา-นะ
รากศัพท์มาจาก ปุร + น
“ปุร” (ปุ-ระ) แปลว่า ก่อน (before), ข้างหน้า (in front of)
ใช้สูตร “ทีฆะ อะ เป็น อา” : ปุร > ปุรา และ “พฤทธิ์ อุ เป็น โอ” : ปุรา > โปรา
“น” (นะ) เป็นปัจจัย แทนคำว่า “มีมา” หรือ “มีอยู่” แปลง น (น หนู) เป็น ณ (ณ เณร)
: ปุร > ปุรา + น > ณ = ปุราณ > โปราณ
ในบาลีมีทั้งรูป “ปุราณ” และ “โปราณ”
“ปุราณ-โปราณ” มีสูตรในการหาความหมายว่า –
“ปุรา ปุเร วา ภโว ปุราโณ” แปลว่า “สิ่งที่มีมาแต่เก่าก่อน หรือมีอยู่ในกาลก่อน ชื่อว่า ปุราณ”
ในบาลี “ปุราณ-โปราณ” ใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) บุคคล, สิ่งของ, เรื่องราว, กาลเวลา ที่เกิดขึ้น-มีมาแล้วในอดีต (ตรงกับความหมายที่เข้าใจกันในภาษาไทย)
(2) สิ่งที่ถูกใช้งานมาแล้ว (ไม่ว่าจะยังใช้ได้อยู่หรือใช้ไม่ได้อีกแล้วก็ตาม)
(3) ผู้ที่เคยเป็น หรืออยู่ในตำแหน่งฐานะใดๆ มาก่อน แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว
(4) มรดก, ผลที่เกิดจากการประกอบการในอดีต (เช่น บุญเก่า)
ในภาษาไทยใช้ว่า “บุราณ” ก็มี “โบราณ” ก็มี พจน.54 บอกไว้ว่า –
(1) บุราณ : (คำวิเศษณ์) เก่า, ก่อน, เช่น คําบุราณท่านว่าไว้เป็นครู.

Read More
บาลีวันละคำ

บุรณะ-บูรณะ (บาลีวันละคำ 757)

บุรณะ-บูรณะ
อ่านว่า บุ-ระ-นะ / บู-ระ-นะ
บาลีเป็น “ปูรณ” อ่านว่า ปู-ระ-นะ
“ปูรณ” รากศัพท์มาจาก ปูรฺ + ยุ
“ปูรฺ” เป็นธาตุ (รากศัพท์) มีความหมายว่า “เต็ม, ทำให้เต็ม”
ธาตุในความหมายนี้มีทั้ง ปูรฺ (สระ อู) และ ปุรฺ (สระ อุ)
ถ้าเป็น ปุรฺ (สระ อุ) กระบวนการทางไวยากรณ์ในคำนี้คือ “ทีฆะ อุ เป็น อู” : ปุรฺ > ปูรฺ
“ยุ” เป็นปัจจัย แปลว่า การ-, ความ- แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ) แล้วแปลง น (น หนู) เป็น ณ (ณ เณร)
: ปูรฺ (หรือ ปุรฺ > ปูรฺ) + ยุ > อน > อณ : ปูร + ณ = ปูรณ แปลว่า ความเต็ม, การทำให้เต็ม, บรรจุจนเต็ม, เติมให้เต็ม (filling)
ข้อสังเกตทางภาษา :
คำว่า “เต็ม” เรามักคุ้นคำอังกฤษว่า full แต่ในที่นี้ คำอังกฤษว่า filling เพราะ “ปูรณ” เป็นคำนาม ถ้าจะให้หมายถึง full บาลีจะเป็น “ปุณฺณ” (ปุน-นะ) (ธาตุตัวเดียวกับ ปูรณ แต่ลงปัจจัยคนละตัว) ใช้เป็นคุณศัพท์ เช่น ปุณฺณจนฺท = จันทร์เต็ม > จันทร์เพ็ญ = the full moon
“ปูรณ” ภาษาไทยใช้เป็น “บุรณะ” (บุ- สระ อุ) ก็มี “บูรณะ” (บู- สระ อู) ก็มี
คำว่า “บุรณะ” (บุ- สระ อุ) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“บุรณะ : (คำกริยา) ซ่อมแซมทําให้กลับคืนดีเหมือนเดิม เช่น บุรณะวัด, มักใช้เข้าคู่กับ ปฏิสังขรณ์ เป็น บุรณปฏิสังขรณ์; (ส. ปูรณ ป. ปุณฺณ)”
คำว่า “บูรณะ” (บู- สระ อู) ก็บอกความหมายตรงกันกับ “บุรณะ” คือ
“บูรณะ : (คำกริยา) ซ่อมแซมทําให้กลับคืนดีเหมือนเดิม เช่น บูรณะวัด, มักใช้เข้าคู่กับ ปฏิสังขรณ์ เป็น บูรณปฏิสังขรณ์; (ส. ปูรณ ป. ปุณฺณ)”
ความแตกต่างระหว่าง “บูรณะ” กับ “ปฏิสังขรณ์” :
ในภาษาไทยมักพูดควบกันไปว่า บูรณปฏิสังขรณ์ โดยไม่ได้แยกความหมายให้ชัดเจนว่า อย่างไรคือบูรณะ อย่างไรคือปฏิสังขรณ์

Read More
บาลีวันละคำ

ปฏิสังขรณ์ (บาลีวันละคำ 756)

ปฏิสังขรณ์
อ่านว่า ปะ-ติ-สัง-ขอน
บาลีเป็น “ปฏิสงฺขรณ” อ่านว่า ปะ-ติ-สัง-ขะ-ระ-นะ
“ปฏิสงฺขรณ” รากศัพท์มาจาก ปฏิ + สํ + กรฺ + ยุ
“ปฏิ” เป็นคำอุปสรรค ใช้นำหน้าคำอื่น มีความหมายว่า เฉพาะ ตอบ ทวน กลับ
ในที่นี้น้ำหนักของความหมายอยู่ที่ “กลับ” หรือ “ทวน”
“สํ” เป็นคำอุปสรรค ใช้นำหน้าคำอื่น มีความหมายว่า พร้อมกัน, ร่วมกัน
ในที่นี้แปลงนิคหิตเป็น งฺ : สํ = สงฺ
“กรฺ” เป็นธาตุ (รากศัพท์) มีความหมายว่า “ทำ”
ในที่นี้แปลงเป็น “ขร”
“ยุ” เป็นปัจจัย แปลว่า การ-, ความ- แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ) แล้วแปลง น (น หนู) เป็น ณ (ณ เณร)
: ปฏิ + สํ = ปฏิสํ > ปฏิสงฺ + กร = ปฏิสงฺกร > ปฏิสงฺขร + ยุ > อน > อณ : ปฏิสงฺขร + ณ = ปฏิสงฺขรณ แปลตามศัพท์ว่า “การทำให้กลับคืนขึ้นมาพร้อมกัน” หมายถึง ปฏิสังขรณ์, ซ่อมแซม, บูรณะ (restoration, repair, mend)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ปฏิสังขรณ์ : (คำกริยา) ซ่อมแซมทําให้กลับคืนดีเหมือนเดิม (มักใช้เฉพาะวัดวาอาราม) เช่น ปฏิสังขรณ์วัด”
ในภาษาบาลี คำว่า “ปฏิสังขรณ์” มิได้จำกัดเฉพาะปฏิสังขรณ์วัด แม้การซ่อมแซมบ้านเมือง เช่น ป้อม กำแพง ค่ายคู ประตู หอรบ ก็ใช้คำว่า “ปฏิสังขรณ์” ด้วยเช่นกัน

Read More
บาลีวันละคำ

บุคลิก (บาลีวันละคำ 755)

บุคลิก
ภาษาไทยอ่านว่า บุก-คะ-ลิก
บาลีเป็น “ปุคฺคลิก” อ่านว่า ปุก-คะ-ลิ-กะ
“ปุคฺคลิก” มาจาก ปุคฺคล + อิก (อิ-กะ) ปัจจัย
“ปุคฺคล” (ปุก-คะ-ละ) แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “ผู้เคลื่อนไปสู่นรก”
(2) “ผู้กินอาหารคือของบูดเน่า”
(3) “ผู้กินอาหารที่ยังอายุของสัตว์ให้เต็มเป็นไป” คือต้องกินจึงจะมีชีวิตอยู่ได้
(4) “ผู้ทำหมู่สัตว์โลกให้เต็มและเคลื่อนไปสู่ธรรมดาคือจุติและอุบัติ” คือเกิดมาทำให้โลกเต็มแล้วก็ตาย
“ปุคฺคล” ในบาลีหมายถึง –
(1) ปัจเจกชน, บุคคล, คน (an individual, person, man)
(2) สัตว์, สัตว์โลก (being, creature)
ปุคฺคล + อิก = ปุคฺคลิก แปลตามศัพท์ว่า “เป็นของเฉพาะบุคคล” หมายถึง เป็นของบุคคลคนเดียว, เฉพาะคน, ต่างหาก (belonging to a single person, individual, separate)
“ปุคฺคล” ใช้ในภาษาไทยว่า “บุคคล” พจน.54 บอกความหมายไว้ว่า

Read More